บทความทางวิชาการ
บทความทางวิชาการ
ปัจจุบันประชากรไทยมีปัญหาเรื่องสุขภาพมากขึ้นเนื่องจากวิถีชีวิตในเมืองเปลี่ยนไป จากการปรุงอาหารเองมาเป็นการซื้ออาหารสำเร็จรูป และรับประทานอาหารจากร้านสะดวกซื้อ ทำให้ได้รับสารอาหารไม่ครบหมู่ ส่งผลให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือด โรคหัวใจ โรคสมองเสื่อม และโรคอื่นๆ ตามมา ประกอบกับประชากรไทยมีอายุเฉลี่ยสูงขึ้น ทำให้ค่ารักษาพยาบาลสูงขึ้น เพื่อลดปัญหาเรื่องสุขภาพดังกล่าว รัฐบาลจึงมีนโยบายส่งเสริมให้มีการรับประทานผักผลไม้โดยยึดเกณฑ์ของ WHO ที่ให้รับประทานวันละ 400 กรัม ทั้งนี้ จากการสืบค้นข้อมูลงานวิจัยพบว่า การศึกษาคุณค่าผลไม้ส่วนใหญ่เป็นการศึกษาผลไม้ต่างประเทศและมุ่งเน้นการศึกษาเฉพาะคุณค่าทางโภชนาการ ส่วนฤทธิ์ทางชีวภาพอื่นๆ มีน้อย การศึกษาสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพและผลต่อสุขภาพของผลไม้ไทยมีน้อยมาก
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เห็นปัญหาและตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว จึงได้ให้การสนับสนุนงานวิจัยเพื่อศึกษาหาปริมาณสารสำคัญ เช่น flavonoid, carotenoid, enzymes, phenolic acid และ prebiotic เป็นต้น และได้ศึกษาฤทธิ์ทางชีวภาพของผลไม้ไทยโดยได้สนับสนุนงานวิจัยภายใต้ชุดโครงการ Thai Fruits-Functional Fruits จำนวน 34 โครงการ ครอบคลุมผลไม้ไทย 18 ชนิด คือ มะม่วง ส้มโอ ทุเรียน มะละกอ เงาะ กล้วย มังคุด ส้ม สับปะรด ฝรั่ง ลิ้นจี่ พุทรา ชมพู่ ละมุด น้อยหน่า มะพร้าว ทับทิม ขนุน มีนักวิจัยจาก 18 สถาบัน เข้าร่วมวิจัยจำนวน 107 คน องค์ความรู้ที่ได้จากการศึกษานี้แสดงให้เห็นคุณค่าของผลไม้ไทย เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์คุณประโยชน์ของผลไม้ไทย ในด้านเสริมสุขภาพ สกว. จึงได้จัดนิทรรศการและประชุมวิชาการเรื่อง “คุณค่าผลไม้ไทย” หรือ “Thai Fruits-Functional Fruits” ในงาน THAIFEX World of Food Asia 2010 ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน – 4 กรกฎาคม 2553 ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี มีการเตรียมเอกสารคุณค่าผลไม้ไทย, ของที่ระลึกเพื่อเผยแพร่ในงาน ผลลัพธ์ที่ได้จากการประชุมในครั้งนี้ทำให้ประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐให้ความสนใจ และขอรับข้อมูลที่ได้จากการรวบรวมผลจากงานวิจัยทั้ง 34 โครงการ โดยสรุปได้ ดังนี้
ซึ่งการกระจายองค์ความรู้ผ่านช่องทางต่างๆ ข้างต้นจะส่งผลให้ประชาชนทั้งในและต่างประเทศตระหนักถึงคุณค่าของผลไม้ไทยและหันมาบริโภคมากขึ้น การส่งออกผลไม้เพิ่มขึ้น จึงส่งผลต่อเกษตรกรผู้ผลิตผลไม้ไทยมีรายและความมั่งคงในอาชีพเพิ่มขึ้น
ปัจจุบันประชากรไทยมีปัญหาเรื่องสุขภาพมากขึ้นเนื่องจากวิถีชีวิตในเมืองเปลี่ยนไป จากการปรุงอาหารเองมาเป็นการซื้ออาหารสำเร็จรูป และรับประทานอาหารจากร้านสะดวกซื้อ ทำให้ได้รับสารอาหารไม่ครบหมู่ ส่งผลให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือด โรคหัวใจ โรคสมองเสื่อม และโรคอื่นๆ ตามมา ประกอบกับประชากรไทยมีอายุเฉลี่ยสูงขึ้น ทำให้ค่ารักษาพยาบาลสูงขึ้น เพื่อลดปัญหาเรื่องสุขภาพดังกล่าว รัฐบาลจึงมีนโยบายส่งเสริมให้มีการรับประทานผักผลไม้โดยยึดเกณฑ์ของ WHO ที่ให้รับประทานวันละ 400 กรัม ทั้งนี้ จากการสืบค้นข้อมูลงานวิจัยพบว่า การศึกษาคุณค่าผลไม้ส่วนใหญ่เป็นการศึกษาผลไม้ต่างประเทศและมุ่งเน้นการศึกษาเฉพาะคุณค่าทางโภชนาการ ส่วนฤทธิ์ทางชีวภาพอื่นๆ มีน้อย การศึกษาสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพและผลต่อสุขภาพของผลไม้ไทยมีน้อยมาก
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เห็นปัญหาและตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว จึงได้ให้การสนับสนุนงานวิจัยเพื่อศึกษาหาปริมาณสารสำคัญ เช่น flavonoid, carotenoid, enzymes, phenolic acid และ prebiotic เป็นต้น และได้ศึกษาฤทธิ์ทางชีวภาพของผลไม้ไทยโดยได้สนับสนุนงานวิจัยภายใต้ชุดโครงการ Thai Fruits-Functional Fruits จำนวน 34 โครงการ ครอบคลุมผลไม้ไทย 18 ชนิด คือ มะม่วง ส้มโอ ทุเรียน มะละกอ เงาะ กล้วย มังคุด ส้ม สับปะรด ฝรั่ง ลิ้นจี่ พุทรา ชมพู่ ละมุด น้อยหน่า มะพร้าว ทับทิม ขนุน มีนักวิจัยจาก 18 สถาบัน เข้าร่วมวิจัยจำนวน 107 คน องค์ความรู้ที่ได้จากการศึกษานี้แสดงให้เห็นคุณค่าของผลไม้ไทย เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์คุณประโยชน์ของผลไม้ไทย ในด้านเสริมสุขภาพ สกว. จึงได้จัดนิทรรศการและประชุมวิชาการเรื่อง “คุณค่าผลไม้ไทย” หรือ “Thai Fruits-Functional Fruits” ในงาน THAIFEX World of Food Asia 2010 ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน – 4 กรกฎาคม 2553 ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี มีการเตรียมเอกสารคุณค่าผลไม้ไทย, ของที่ระลึกเพื่อเผยแพร่ในงาน ผลลัพธ์ที่ได้จากการประชุมในครั้งนี้ทำให้ประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐให้ความสนใจ และขอรับข้อมูลที่ได้จากการรวบรวมผลจากงานวิจัยทั้ง 34 โครงการ โดยสรุปได้ ดังนี้
1. สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประจำสถานเอกอัคราชฑูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน ได้นำเข็มสัญลักษณ์ผลไม้ และเอกสารประโยชน์ของผลไม้ไทยไปเผยแพร่ในงานเทศกาลไทย (Thai Festival) ประจำปี 2553 ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2553 ณ บริเวณหน้าศาลาว่าการกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ค
2. สถานเอกอัคราชฑูตกรุงสตอคโฮล์ม ได้นำเข็มสัญลักษณ์ และเอกสารเผยแพร่ไปจัดงาน Thailand Festival 2010 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี แห่งการเสด็จเยือนสวีเดนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เมื่อ พ.ศ. 2503 โดยจัดงานระหว่างวันที่ 20-21 สิงหาคม 2553 ณ เมือง Krungsträdgarden ณ กรุงสตอคโฮล์ม ประเทศสวีเดน
3. บริษัท อาริซึโปรดักส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ส่งออกผลไม้ชนิดต่างๆ รวมทั้งทุเรียน ได้ขอข้อมูลไปใช้ตอบข้อซักถามของผู้ซื้อในประเทศญี่ปุ่น ตลอดจนตอบคำถามเรื่องการบริโภคทุเรียนร่วมกับอัลกอฮอล์
4. บริษัท เลมอนฟาร์ม จำกัดได้ติดต่อขอนำข้อมูลไปพิมพ์เผยแพร่
5. มีผู้แจ้งความประสงค์ขอนำข้อมูลไปใช้ในการเรียนการสอนให้แก่นักเรียน
สุดยอดไปเลยย
ตอบลบข้อมูลดี มีประโยชน์
ตอบลบมีประโยชน์ดี
ตอบลบประโยชน์ล้วนๆ
ตอบลบ